4.9.54

เหตุผลที่ควรยิ้ม :D


            เมื่อเปรียบเทียบการยิ้มกับการแสดงสีหน้าแบบอื่น
เช่น โกรธ เศร้า เคร่งขรึม  วิตกกังวล ฯลฯ แล้ว
จะพบว่าการยิ้มใช้กล้ามเนื้อใบหน้าน้อยกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่นมาก
การยิ้มจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่า
และทำให้ใบหน้าดูดีกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่นๆ ด้วย


เพื่อให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของคุณได้ทำงานซะบ้าง
ถ้าคุณยิ้มให้เขา มีหรือเขาจะไม่ยิ้มตอบคุณ
อย่างน้อยคุณจะได้ให้เขาช่วยเตือนว่ามีเศษผักสีเขียวมรกต
ยังคงสนุกสนานในปากคุณ
การยิ้มเป็นการเริ่มต้นแห่งมิตรภาพที่ดีที่สุด
ถ้าคุณไม่ยอมยิ้ม แล้วใครจะได้เห็นล่ะว่า คุณมีลักยิ้มที่น่ารักที่สุด
เมื่อคุณทำผิดแล้วโดนจับได้ การแก้ตัวก็มีแต่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
แต่การยิ้มเจื่อน ๆ แบบว่า แย่จัง!! คุณจะดูเหมือน พวกที่สำนึกผิด
แล้วใครล่ะ จะกล้าโกรธคุณลง
ยิ้มสวยๆ จะทำให้คนหน้าตาธรรมดาๆ ดูดีขึ้นจนน่าประหลาดใจ
การยิ้มในวันที่อ่อนล้าหรือเซ็งสุดๆ ในชีวิต จะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกดีขึ้น
ถ้าคุณพูดไม่เก่ง ลีลาไม่เด็ด ให้ยิ้มมากๆ เป็นการชดเชย
รอยยิ้มเป็นสัญญาณบอกใครๆ ว่าคุณพร้อมจะเปิดใจแล้ว
ยิ้มดีๆ เพียงครั้งเดียวดีกว่าคำพูดนับแสนคำ


ยิ้มเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยยิ้ม เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 มัดใหญ่ คือ
ไซโกเมติก เมเจอร์ ( Zygomatic major) ที่จะช่วยดึงมุมปากให้ยกขึ้นไปหาโหนกแก้ม
และออร์บิคิวลาริส ออคิวไล (Orbicularis Oculi )
ที่จะช่วยดึงเนื้อแก้มและเบ้าตาให้ยกขึ้น


ยิ้มมีผลต่อร่างกายอย่างไร
จากการศึกษาพบว่า เมื่อกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนไหวจนเกิดเป็นรอยยิ้ม
จะส่งผลทำให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีอุณหภูมิลดลง 
จะทำให้เกิดความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
ซึ่งจะตรงข้ามกับการทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ที่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า
จะทำให้สมองมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดความรู้สึกไม่สบาย


          นอกจากนี้ ในขณะที่คนเรายิ้ม หัวใจจะเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง
ระบบต่างๆ ในร่างกายจะผ่อนคลาย  ต่อมหมวกไตจะทำงานน้อยลง
ฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด จะถูกขับออกมาน้อยลงด้วย
การยิ้มจึงช่วยลดความเครียดได้


การยิ้มมีความสัมพันธ์กับความสุขอย่างไร
เป็นที่สงสัยกันมาก ว่า คนเรามีความสุขแล้วจึงยิ้ม หรือยิ้มก่อนแล้วจึงมีความสุข
ทำให้นักวิชาการต้องทำการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ลงไป
และผลที่ได้ก็พบว่าเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง
นั่นคือ เมื่อคนเรารู้สึกมีความสุข เราจะแสดงออกทางสีหน้าด้วยรอยยิ้ม
แต่ก็มีบางคนเหมือนกัน ที่ชอบเก็บกดอารมณ์ของตน
เวลามีความสุขก็ยังพยามบังคับสีหน้าให้ดูเคร่งขรึม
ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อใบหน้ามากกว่า เสียพลังงานมากกว่า
และทำให้ไม่สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่
ในทางตรงข้าม แม้คนเราจะยังไม่รู้สึกมีความสุข แต่เมื่อยิ้มแล้ว
สักพัก จะรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขได้เช่นกัน


ที่มา :http://www.vcharkarn.com/varticle/43227


ประโยชน์ของการหัวเราะ


ความดันโลหิตลดลง
ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดลดลง
ขณะเดียวกันการทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ ก็เป็นปกติ
กระตุ้นระบบภูมิชีวิต (Immune system)
ทำให้ T-celll ซึ่งเป็นทหารประจำตัว คอยกำจัดเชื้อโรคเพิ่มจำนวนขึ้น
รวมถึงแอนตี้บอดี้อื่นๆ ในร่างกายด้วย
คลายความเจ็บปวด อารมณ์ขัน ทำให้ผู้ป่วยลืมความเจ็บปวด
และยังกระตุ้นการสร้างเอ็นดอร์ฟินในร่างกาย
ซึ่งเป็นฮอร์โมนระงับปวดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
ขณะที่หัวเราะ กล้ามเนื้ออื่นๆ ที่ไม่ได้สัมพันธ์กับการหัวเราะ จะผ่อนคลาย
และเมื่อหยุดหัวเราะ กล้ามเนื้อที่สัมพันธ์กับการหัวเราะ ก็จะผ่อนคลาย
เป็นการทำงานสองขั้นตอน
หายใจดีขึ้น การหัวเราะบ่อยๆ ทำให้ปอดโล่ง
หายใจได้ลึกขึ้นดีมากๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ


รู้อย่างนี้แล้ว หันมาผ่อนคลายจิตใจ หัวเราะให้บ่อยขึ้น
แต่อย่ามากกว่าปกติ เดี๋ยวคนรอบข้างจะหาว่า...ไม่รู้ตัว


ที่มา   http://hilight.kapook.com/view/31930

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น